วิธีการศัลยกรรม
อันดับแรก ตัดเยื่อบุสายเสียงส่วนหน้าออกหนึ่งในสาม จากนั้นเย็บกล้ามเนื้อสายเสียง
จะทำให้ความยาวของการสั่นสะเทือนของสายเสียงลดลง จากนั้นดึงส่วนหน้าของสายเสียงไปด้านหลัง
จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของสายเสียงเป็นธรรมชาติ
การศัลยกรรมวิธีนี้ไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่กล้ามเนื้อประมาณ 50 ชิ้นในกล่องเสียง
ทำให้ความยาวของสายเสียงสั้นลง ช่วยเพิ่มความถี่พื้นฐานของเสียงเป็นเสียงผู้หญิงอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์ก่อนและหลังผ่าตัด
ก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด 1 ปี
ผลที่ได้รับจากการศัลยกรรม VFSRAS
จากผลลัพธ์ที่ได้ พบว่า การศัลยกรรมด้วยเทคนิค Vocal Folds Shortening and Retrodisplacement of Anterior Commissure สามารถเพิ่มความถี่พื้นฐานเสียงสำหรับสาวประเภทสองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 73.6 เฮิรตซ์ จากค่าความถี่พื้นฐานเสียงผู้ชายที่ (100 เฮิรตซ์ – 150 เฮิรตซ์) เป็นค่าความถี่พื้นฐานเสียงผู้หญิงที่ (200 เฮิรตซ์ – 250 เฮิรตซ์) ตามตารางต่อไปนี้
ผลลัพธ์ที่ได้จากการติดตามระยะยาวเกี่ยวกับการศัลยกรรมเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิงของกลุ่มสาวประเภทสองและกลุ่ม ผู้หญิงที่มีเสียงเป็นผู้ชาย : ผลจากการวิจัย 12 ปี ( ปี 2003 - 2014)
| ทุกกลุ่ม |
กลุ่มสาวประเภทสอง |
กลุ่มผู้หญิงที่มีเสียงเป็นผู้ชาย |
|
|---|---|---|---|
| ก่อนศัลยกรรม | 144.1 | 134.6 | 153.5 |
| หลังศัลยกรรม 3 เดือน | 194.8 | 190.3 | 199.4 |
| หลังศัลยกรรม 6 เดือน | 207.4 | 208.2 | 206.5 |
กรณีที่ไม่เคยผ่านการเหลาลูกกระเดือกมาก่อน ผลของการศัลยกรรมจะดีกว่าโดยโทนเสียงจะสูงขึ้นมากกว่า
ผลลัพธ์ที่ได้จากการศัลยกรรมสายเสียง Vocal Folds Shortening and Retrodisplacement of Anterior Commissure
ของผู้ที่เคยศัลยกรรมเหลาลูกกระเดือกและไม่เคยศัลยกรรมเหลาลูกกระเดือก
| กรณีที่เคยเหลาลูกกระเดือก(+) |
กรณีที่ไม่เคยเหลาลูกกระเดือก(-) |
|
|---|---|---|
| ก่อนศัลยกรรม | 138.9 | 130.2 |
| หลังศัลยกรรม | 206.2 | 210.1 |
| การเพิ่มขึ้นของความถี่พื้นฐานเสียงโดยเฉลี่ย | 67.3 | 79.9 |
การศัลยกรรมด้วยเทคนิค VFSRAC สร้างความพึงพอใจได้ถึง 92% โดยที่ระยะเวลาเฉลี่ยเสียงจะถูกปรับจนเป็นโทนเสียงเป็นผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 6 - 12 เดือน ผลที่ได้จะขึ้นอยู่กับลักษณะของสายเสียงและการดูแลหลังการผ่าตัดด้วยการทำตามคำแนะนำทั้งหมดที่ได้รับ และอาจจะต้องใช้เวลาถึง 1 ปี จนกระทั่งคนไข้สามารถปรับตัวกับการใช้สายเสียงใหม่ที่สั้นลง เราจำเป็นที่จะต้องฝึกเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพเสียงโดยการฝึกออกเสียงรูปแบบการออกเสียงใหม่ในแต่ละวันเป็นเวลาหลายเดือนจนกระทั่งถึง 1 ปี รวมถึงอาจจะจำเป็นต้องรักษาด้วยยาโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่องกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยถึงการมีเสียงสั่นโดยการตรวจวัดเสียง อย่างละเอียด เนื่องด้วยการศัลยกรรมสายเสียงด้วยเทคนิค VFSRAC ไม่ได้เห็นผลทันทีหลังการผ่าตัด การฝึกออกเสียงผู้หญิงเพื่อปรับให้เข้ากับระบบการออกเสียงใหม่และการสร้างรูปแบบการออกเสียงใหม่เพื่อปรับให้เข้ากับสายเสียงใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
การดูแลเสียงและการพัฒนาของเสียงหลังการศัลยกรรมเปลี่ยนเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิง
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะแตกต่างจากในกราฟขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
ภาวะแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรม VFSRAC
หลังการศัลยกรรมไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ แต่อาจจะมีคนไข้บางรายที่อาจมีอาการบางอย่างเกิดขึ้นได้ เช่น เสียงแหบ ปวดคอ มีเสมหะ มีอาการไอ เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้จะเกิดแค่ชั่วคราวและเมื่อคนไข้ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่าง เคร่งครัด อาการเหล่านั้นจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ สำหรับการศัลยกรรมตกแต่งเสียงนั้นควรจะต้องหาและเลือกใช้เทคนิค ศัลยกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นและดังนั้นเราจึงควรคาดคะเนระดับของเสียงที่จะเป็น หลังการศัลยกรรมก่อนการทำศัลยกรรม นอกจากนี้คุณภาพเสียงและเสียงสะท้อนของเสียงสามารถเปลี่ยนเป็น เสียงผู้หญิงมากขึ้นโดยการเปลี่ยนรูปร่างของช่องคอหอยผ่านแรงจูงใจของผู้ป่วยเองและโดยการเข้าร่วมการบำบัดและ ฟื้นฟูเสียง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการศัลยกรรมตกแต่งเสียงคือผู้ป่วยควรจะได้รับการศัลยกรรมตกแต่งเสียงจากคลินิกที่มี ประสบการณ์ในด้านการศัลยกรรมสูงและคลินิกที่สามารถดูแลเรื่องการฟื้นฟูเสียงได้ ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถคาดหวัง ในผลลัพธ์ที่ต้องการได้ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไข้จะต้องได้รับการศัลยกรรมเปลี่ยนเสียงให้เสียงเป็นเสียงผู้หญิงจาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องแม่นยำและมีประสบการณ์สูง
ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการศัลยกรรม
| VFSRAC | Cricothyroidopexy | Thyroid Cartilage and Vocal Folds Reduction | Web glottoplasty | Laser reduction glottoplasty | |
|---|---|---|---|---|---|
| วิธีการผ่าตัด | ลดความยาวของ สายเสียงโดยตัดเยื่อ บุสายเสียง ด้านหน้าออก จากนั้นเย็บกล้ามเนื้ อสายเสียง. | ดึงกระดูกอ่อนไครรอย ด์และกระดูกอ่อนไทรอ ยด์เข้าหากันและเย็บก ล้ามเนื้อ | ตัดด้านหน้าของกระดูกอ่ อนไทรอยด์และสายเสียง ออก | ทำให้บริเวณส่วนหน้าขอ งสายเสียงแคบลงและติด กันเพื่อให้ส่วนที่สั่นของส ายเสียงสั้นลงและความถี่ พื้นฐานเสียงสูงขึ้น | การเลเซอร์โดยผ่านการ ส่องกล้องจะเอาเยื่อบุอ อกเท่านั้นซึ่งเป็นสาเหตุ ให้เกิดคลื่นขอบสายเสีย งและแผลที่สายเสียงที่จ ะทำให้โทนเสียงสูงขึ้นโ ดยการตึงคลื่นขอบสาย เสียง |
| การกรีดผิวหนัง | ไม่มี | มี | มี | ไม่มี | ไม่มี |
| การมีเลือดออก | ไม่มี | มี | มี | ไม่มี | ไม่มี |
| การให้ยาระงับความรู้สึก | ยาสลบ | ยาสลบ | ยาสลบ | ยาสลบ | ยาชาเฉพาะที่ |
| คุณภาพเสียง | เสียงเป็นธรรมชาติ | เสียงหลบ | เสียงสูงหลบ | เสียงกระด้าง | เสียงหลบที่กระด้าง |
| การร้องเพลง | เป็นไปได้ | เป็นไปไมได้ | เป็นไปได้บางส่วน | เป็นไปไมได้ | " |
| ภาวะแทรกซ้อน | แทบจะไม่มี | เกิดการอักเสบ, โทนเสียงสูงขึ้น ระดับเสียงเพิ่มขึ้นอย่า งไม่คงที่ | เกิดการอักเสบ, โทนเสียงเปลี่ยนมากเกิน ไป เสียงไม่เป็นธรรมชาติ | เสียงเปลี่ยนและคุณภาพ เสียงแย่ลง | เสียงเปลี่ยนและคุณภา พเสียงแย่ลง |
| ข้อควรระวัง | งห้ามพูดอะไรเป็นเวลาหนึ่งเดือน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยาสูบเป็นเวลา 1 เดือน | ถึงแม้ว่าจะทำให้สายเ สียงตึงแล้ว สายเสียงยังหนา ทำให้การสูงขึ้นของโท นเสียงมีขีดจำกัด | กรณีที่ผ่าตัดเอาสายเสียง ออกมากเกินไป อาจทำให้เสียงไม่สามาร ถฟื้นตัวได้อีก | สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ขึ้ นอยู่กับแต่ละบุคคล และการสูงขึ้นของโทนเสี ยงมีขีดจำกัด | ใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน การสูงขึ้นของความถี่พื้ นฐานเสียงมีขีดจำกัด |
ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคศัลยกรรมเปลี่ยนเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิง
เยซอนคลินิกได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่งเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิงในงานประชุม World Congress of the International Federation of Otorhinolaryngological Societies (IFOS) ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้น ณ
ศูนย์ประชุมและการจัดนิทรรศการโคเอกซ์ เมืองโซล ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2013
การจัดประชุมนี้สัมพันธ์กับการแข่งขันโอลิมปิกในด้านโสตนาสิกราลิงซ์วิทยาซึ่งจัดขึ้นทุก 4 ปี ซึ่งมีสมาชิกถึงกว่า 50000
คน จากประเทศกว่า 125 ประเทศ และในการประกวดแข่งขันนี้
เยซอนคลินิกได้เป็นตัวแทนของเอเชียนำเสนอเกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่งเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิงด้วยการลดขนาดสาเสี
ยงโดยการส่องกล้อง (Vocal Folds Shortening and Advancement of Anterior Commissure (VFSAAC))
และได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส
ว่าการศัลยกรรมด้วยเทคนิควิธีนี้ได้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคที่ใช้เมื่อก่อน
ผู้อำนวยการของเยซอนคลินิก นายแพทย์ คิม ฮยอง แท ได้นำเสนอว่า
เมื่อเขาเป็นศาสตราจารย์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยแพทย์คาทอลิกได้พัฒนาวิธีการศัลยกรรมสายเสียงด้วยการส่องกล้องนี้
ขึ้นมาจากวิธีเดิมโดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาผู้หญิงที่มีเสียงเป็นผู้ชายอันเนื่องมาจากโรคทางพันธุกรรม เช่น
ความผิดปกติในการทำงานของต่อมหมวกไต
การศัลยกรรมตกแต่งเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิงด้วยวิธีนี้แตกต่างจากวิธีเดิมที่ต้องกรีดผิวหนังซึ่งวิธีนี้ใช้การส่องกล้องเข้าไปป
รับรูปร่างของสายเสียง ไม่มีการกรีดผิวหนัง สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อสายเสียงน้อยกว่า
และเปลี่ยนเสียงให้ฟังดูเป็นธรรมชาติ
งานวิจัยกว่า12ปีเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมเส้นเสียงเปลี่ยนเสียงเป็นผู้หญิงแบบใหม่ได้ถูกตีพิมพ์ในวิทยานิพนธ์เชี่ยวชาญทางด้านหูตาคอจมูกที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดอย่าง "The Laryngoscope“
